ดูสินค้าทั้งหมด
เมนู สินค้า
ค้นหา
สมาชิก
0
ตะกร้าสินค้า
Notice
  • Login
  • สมัครสมาชิก
  • ลืม password
  • Thai
WWW.EYELABSHOP.COM
สถิติเว็บ
วันที่สร้างเว็บ :1/12/2012
ปรับปรุงเว็บล่าสุด :16/4/2021
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :2870742

เล่นมือถือในที่มืด เสี่ยงตาบอด!..

 รายละเอียดบทความ  วันที่โพส : 23/3/2018  จำนวนคนเข้าชม : 971



 

เกิดเรื่องปะหลาด!! ผู้หญิง 2 คน อายุ 22 และ 40 ปี มาหาหมอแล้วบอกหมอว่าพวกเขามีอาการตาบอดนานถึง 15 นาที

ข้อมูลจากวารสารการแพทย์ The New England กล่าวว่า :

          หลังจากที่แพทย์ได้ใช้วิธีการตรวจด้วย MRI สแกนหัวใจและใช้วิธีทดสอบทางการแพทย์อื่นๆ หมอก็เริ่มตรวจสอบประวัติผู้ป่วย แล้วอะไรคือสิ่งที่หมอกำลังจะพูด.. แพทย์สามารถเชื่อมโยงอาการตาบอดชั่วคราวจากคนไข้ทั้ง 2 รายนี้ได้ว่าเขาทั้งคู่ใช้โทรศัพท์มือถือก่อนนอน โดยผู้หญิงทั้งสองคนได้ทำการทดสอบโดยนำโทรศัพท์มือถือวางไว้ข้างๆ ตัวในขณะที่กำลังนอน – ซึ่งเป็นท่าที่คนส่วนใหญ่ใช้นอน ตำแหน่งนี้จะทำให้ตาข้างหนึ่งอยู่ที่หน้าจอ ในขณะที่ตาอีกข้างหนึ่งหรือมีเพียงบางส่วนที่โดนหมอน

       ดังนั้นตาข้างหนึ่งจะปรับไปใช้แสงจากโทรศัพท์มือถือในขณะที่ตาอีกข้างหนึ่งปรับแสงให้เข้ากับความมืด เมื่อคุณปิดโทรศัพท์มือถือสมองจะรู้สึกสับสนและสงสัยว่าทำไมตาข้างหนึ่งปรับเป็นช่วงเวลา “กลางวัน” ในขณะที่ตาอีกข้างหนึ่งปรับเป็นเวลา “กลางคืน” สิ่งนี้มันเลยเป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้เกิดการตาบอดชั่วคราว – และในที่สุดก็เกิดดวงตาเสียหายถาวร แสงสีฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาจากโทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่ใครหลายคนคิด ซึ่งสารสีฟ้าเป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างใหม่ ที่เพิ่งเกิดขึ้นใน 20 ปีที่ผ่านมา หรือเมื่อครั้งที่หน้าจอ LED ได้กลายเป็นที่นิยมภายในครัวเรือน แต่เดิมหลายๆ คนหรือแม้แต่จักษุแพทย์มักจะไม่เห็นถึงปัญหานี้ แต่ตอนนี้เราคงทราบดีแล้วว่าความเสียหายที่รุนแรงจากการจ้องมองแสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟนในเวลาเป็นเวลานานจะทำให้ดวงตาเสื่อมสภาพ มีจักษุแพทย์ท่านหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่ามีผู้ป่วยบางส่วนที่มีช่วงอายุ 35 ปี มีเลนส์ตาที่ขุ่นมัวจากการสัมผัสแสงสีฟ้าในเวลากลางคืน คล้ายกับผู้ที่มีอายุ 75 ปี ผลลัพธ์จากความเสียหายนี้อาจดูเป็นไปไม่ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ Harvard ยืนยันการเชื่อมโยงระหว่างแสงสีฟ้ากับโรคมะเร็งหลายๆ ประเภท โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน
 

แปลบทความโดย : 

บทความต้นฉบับจาก : 

 

 

ถูกใจบทความนี้ ช่วยกดไลค์หรือแชร์กันหน่อยนะ...
ความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้
Save Progress..