ปัจจุบัน คุณทราบหรือไม่ ว่า "Google.com" เว็บไซต์ค้นหาข้อมูลชื่อดัง เริ่มให้ความสำคัญกับการแสดงผลเว็บบนมือถือเป็นอย่างมาก
สืบเนื่องจากทุกวันนี้ มีอุปกรณ์มากมาย ที่มีขนาดแตกต่างกันทั้งมือถือ Smartphone และ Tablet สามารถใช้เปิดดูเว็บไซต์ได้
และอัตราการเข้าดูเว็บผ่านอุปกรณ์มือถือก็เพิ่มมากขึ้นในอัตราก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัด
การเปิดดูหน้าเว็บได้ ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ แต่ปัญหาคือ อุปกรณ์ที่มีหน้าจอเล็ก (อย่างเช่น iphone4) เวลาเปิดดูหน้าเว็บในมือถือ จะทำให้เนื้อหาดูเล็กมาก และจำเป็นต้องซูมเข้าไปเพื่อดูเนื้อหาให้ชัดขึ้น
ซึ่งการซูม เข้า-ออก หน้าเว็บบนมือถือ ทำให้การใช้งาน "ไม่สะดวก" เรียกตามภาษาที่ google ระบุไว้ก็คือ "ดูไม่สะดวก บนมือถือ" (Not mobile-friendly)
ดังนั้น google จึงทำการเขียนอัลกอริทึมในการค้นหาข้อมูลบน google ด้วย "มือถือ" ใหม่
ถ้าหากคุณต้องการค้นหาข้อมูลใน google และกดค้นหาด้วยมือถือ... google จะทำการดึงข้อมูลของเว็บที่ "ดูสะดวกบนมือถือ" (Mobile-Friendly) ขึ้นมาในลำดับแรก ๆ ก่อน
"Mobile-Friendly" (ดูสะดวกบนมือถือ) - ในความหมายของ google ก็คือ... การที่ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลในหน้าเว็บ โดยไม่จำเป็นต้อง ซูมขยายเข้า-ออก เพื่อให้ดูข้อมูลได้ชัดเจน แต่จะใช้แค่การเลื่อนขึ้น-ลง หรือเลื่อนซ้าย-ขวา เพื่อดูข้อมูลในส่วนถัดไปเท่านั้น
ดังนั้น ถ้าหากว่าคุณเป็นเจ้าของเว็บไซต์ขายสินค้าแล้วล่ะก็ คุณย่อมอยากให้เว็บของคุณมีโอกาสที่จะแสดงข้อมูลในการค้นหาหน้าแรก ๆ ของ google อย่างแน่นอน
ซึ่งเว็บไซต์ในปัจจุบันนี้
ถ้าหากว่าไม่สามารถแสดงผลแบบ Mobile-Friendly แล้วล่ะก็... Google จะฟ้องให้คุณเห็นใน google webmaster tools อย่างชัดเจน ว่าเว็บของคุณมีปัญหาในเรื่องนี้ และเมื่อมีการค้นหาในมือถือ โอกาสที่เว็บของคุณจะถูกแสดงในหน้าแรก ๆ ของการค้นหาบน google ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย
(ตัวอย่างหน้าจอที่ google webmaster tools แจ้งให้เจ้าของเว็บรูปว่าเว็บของเขามีปัญหาในการแสดงผลบนมือถือ)
นอกจากนี้ใน google webmaster tools ยังมีตัวตรวจสอบหน้าจอ ซึ่งแสดงให้คุณเห็นว่า ในหน้าเว็บที่คุณมีทั้งหมด ใช้งานสะดวกบนมือถือหรือไม่?
ซึ่งทางแก้สำหรับการออกแบบหน้าเว็บให้เหมาะกับมือถือตามแบบที่ google ต้องการ สามารถทำได้ 2 ทางคือ
1. Responsive Design ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Responsive Design คลิกที่นี่ )
2. Web Mobile Mode - คือการดีไซน์หน้าเว็บใหม่ สำหรับการแสดงผลบนมือถือโดยเฉพาะ
ทั้ง 2 แบบ จะมีความแตกต่างกัน ดังเช่น
- แบบ Responsive Design จะเหมือนกับเสื้อฟรีไซส์ ที่สามารถสวมใส่ได้แทบทุกคน (คล้ายกันกับการดูหน้าเว็บ ที่สามารถเปิดดูได้บนทุกอุปกรณ์)
- แบบ Web Mobile Mode
จะเหมือนกับชุดสั่งตัดโดยเฉพาะ (เปรียบได้กับหน้าเว็บที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูบนมือถือเท่านั้น แยกกันไปกับหน้าเว็บที่เปิดดูบน PC หรือ Notebook)
ดังนั้น... สำหรับคนที่มีเว็บไซต์ และให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูลบน google... มันถึงเวลาแล้วล่ะ ที่คุณจะต้องกลับมาปรับเปลี่ยนหน้าเว็บของคุณให้ตอบสนองกับนโยบายของ google