อินเตอร์เฟสเมนู flyme Meizi m2 note
ด้วยระบบปฎิบัติการ Flyme 4.5 ที่มาพร้อมกับ Android Loliipop 5.0 ทำให้การใช้งาน การปัดเลื่อนเมนูต่างๆลื่นไหลไม่แพ้เครื่องเเบรนด์ทั่วๆไป
หน้าจอ Flyme ของ Meizu จะเป็นการรวมหน้า App Drawing รวมเข้ากับ Homescreen ลักษณะคล้ายๆยี่ห้ออื่นๆ เช่น iPhone, Xiaomi ฯลฯ
หน้าตาเมนูต่างๆ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน ลักษณะคล้ายๆ Samsung ผสม iphone เลยก็ว่าได้
รูปแรกเป็นการล้างโปรแกรมที่เราได้ทำการเปิดทิ้งไว้ โดยการเลื่อนมือจากล่างขึ้นบน ก็จะมีแอพที่เราเปิดไว้ก่อนหน้า วิธีการลบก็ทำได้ง่ายๆ เพียงลากแอพเลื่อนขึ้นด้านบน
รูปที่สอง และสาม เป็นการตั้งค่าเปิด-ปิด WIFI. 3G, บลูทูธ และอื่นๆ โดยการเลื่อนมือจากบนลงล่าง ก็จะมีเมนูการตั้งค่าแสดงออกมา
สำหรับตัว Meizu M2 Note นั้น สามารถใช้งานภาษาไทยได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเวปที่เป็นภาษาไทย การพิมพ์ตัวหนังสือภาษาไทยต่างๆสามารถใช้งานได้สมบูรณ์ 100%
ทดสอบสเปคเครื่อง Meizi m2 note
จากการเทศผ่านโปรแกรม Antutu ของ Meizu M2 Note นั้นได้คะแนนอยู่ที่ 30747 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่น่าพอใจมากกับมือถือ ราคาไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท
ข้อมูลอุปกรณ์ของตัว Meizu M2 Note หลักๆจะมี CPU 8Core MT6753 (64bit) / การ์ดจอ Mali-T720 / Ram 2GB / Rom 16 GB / กล้องหน้า 5 ล้าน - กล้องหลัง 13 ล้าน / มันติทัส 10 จุด / ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว 1920 x 1080P
เทสความลื่นไหลของการประมวลผลด้าน 3D จากโปรแกรม Nenamark2 ผลลัพท์ได้อยู่ที่ 56.6fps
ทดสอบสเปคเครื่อง Meizi m2 note
ฟังก์ชั่นการใช้งานเมนูเล่นเพลงของตัว Meizu M2 Note นั้นใช้งานได้สะดวก และยังสามารถเลือกโหลดเพลงจากตัว App ในเครื่อง รวมทั้งยังสามารถแสดงเนื้อเพลงเวลาเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงด้วยโทรศัพท์มือถือแล้วบอกเลยว่า Brand Meizu นั้นตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากเดิม Meizu นั้นดังมาจากการทำเครื่องเล่น MP3 คุณภาพดีมาก่อนจึงทำให้การใช้งานฟังก์ชั่นนี้มีผลมาถึงตัว Product อื่นๆของ Meizu ด้วย
หน้าจอแสดงผลของตัว Meizu M2 Note นั้นมีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว รวมถึงมีความละเอียด 1920 x 1080P จึงทำให้สามารถดูภาพ หรือดูหนังไม่ว่าจะผ่านโปรแกรมดูหนัง หรือ Youtube ดูได้ด้วยความละเอียดแบบ Full-HD กันเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพจากการดู Youtube จากเครื่อง Meizu M2 Note
ทดสอบกล้อง Meizi m2 note
ฟังก์ชั่นกล้องถ่ายรูปของ Meizu M2 Note นั้นใช้งานได้สะดวก และยังมีโหมดให้เลือกมากมายหลายโหมด รวมถึงการใช้เลนส์กล้องของ Samsung จึงทำให้การถ่ายภาพออกมาได้สวย และคุ้มค่ากับราคามากๆ ซึ่งความละเอียดที่ให้มากล้องหน้า 5 ล้าน และกล้องหลัง 12 ล้าน รวมถึง แฟลช 2 สีช่วยในการถ่ายภาพให้สวยขึ้น อีกทั้งยังมีลูกเล่นที่ช่วยเสริมเข้ามาให้การใช้งานกล้อง Meizu M2 Note ใช้งานได้ดีขึ้นอีกด้วย ที้่สำคัญใช้ได้ทั้งกล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลัง
ฟังก์ชั่นแรกคือ Mode Auto โหมดนี้สามารถถ่ายได้ง่าย และสะดวก รวมทั้งมีลูกเล่นในการวัดแสงช่วยทำให้เราเลือกโฟกัส แยกกับการวัดแสงได้ ซึ่งมีผลทำให้ภาพดูสว่าง หรือมืดลงได้
ฟังก์ชั่นที่สองคือ Mode Manual โหมดนี้สามารถถ่ายรูปได้แบบมืออาชีพ เพราะสามารถปรับ Speed Shutter, ISO, Exposure และ Focal Lengh
ฟังก์ชั่นที่สามคือ Mode Beauty โหมดนี้สามารถถ่ายรูปแบบฟรุ้งฟริ้งได้เลย เพราะตัวนี้สามารถที่จะปรับตาให้โต หรือเล็กได้, ปรับหน้าเรียว, หน้าใส รวมถึงความขาวด้วย
ฟังก์ชั่นที่สี่คือ Mode Panorama โหมดนี้สามารถถ่ายรูปได้แบบมุมกว้าง เหมาะสำหรับเก็บภาพมุมกว้าง หรือภาพวิวทิวทัศน์ได้เป็นอย่างดี
ฟังก์ชั่นที่ห้าคือ Mode Light Field โหมดนี้สามารถถ่ายรูปแล้วมาเลือกปรับ Focus ทีหลังได้ว่าต้องการให้ตรงไหนชัด ตรงไหนเบลอได้เลย
ฟังก์ชั่นที่หกคือ Mode Scan โหมดนี้ใช้ในการสแกน QR CODE ต่างๆได้เป็นอย่างดี สะดวกไม่ต้องโหลด app เพิ่มใช้งานได้จากตัวกล้องของตัวเครื่องได้เลย
ฟังก์ชั่นที่เจ็ดคือ Mode VDO Slowmotion โหมดนี้สามารถถ่ายวีดีโอได้ครั้งละ 60 วินาที ลักษณะการถ่ายก็จะออกมาในรูปแบบภาพช้า ลูกเล่นเหมือนที่มีอยู่ iphone 6 / 6 plus เลย
ทดสอบ 3G Meizi m2 note
ตัวเครื่อง Meizu M2 Note นั้นสามารถใช้งานได้ 2 ซิม สแตนบายพร้อมกัน รวมถึงยังรองรับ 4G ทั้ง 2 ซิม ที่สำคัญสามารถใช้ได้ทุกเครือข่ายในบ้านเราได้เลย
ทดสอบการเล่น Net ผ่านซิมการ์ดของ Meizu M2 Note รูปแรก AIS รูปหลัง TRUE ซึ่งความเร็วในการใช้งานขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่เป็นหลัก
ทดสอบการเล่นเกมส์ Meizi m2 note
สำหรับคอเกมส์นั้นตัว Meizu M2 Note ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเพราะสเปคของตัวเครื่องนั้นจัดได้ว่าแรงในราคาเบาๆ ( CPU 8 core, Ram 2GB, Rom 16GB, Mutitouch 10 จุด )
เกมส์ต่างๆ ที่ได้ทำการเทส ทุกเกมส์เล่นได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด
ทดสอบ กล้องถ่ายรูป Meizi m2 note
กล้องหน้าของตัว Meizu M2 Note
ภาพตัวเครื่อง Meizi m2 note